รับมืออย่างไรกับ ฝุ่นควัน Pm2.5 ในหน้าหนาว

ประเทศไทยเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่น PM.25 เป็นอย่างมากที่ปกคลุมท้องฟ้าทั่วเมือง สาเหตุหลักในการเกิดมลพิษ PM.25 มักเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ การเผาไหม้จากเครื่องยนต์ดีเซล โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ในที่โล่งของเกษตรกรรม การคมนาคมขนส่ง ไอเสียจากรถยนต์ ฝุ่น ควันดำ รวมถึงภัยธรรมชาติอย่างไฟป่าและภูเขาไฟระเบิด แต่ในฤดูหนาวอุณหภูมิที่พื้นดินมักเย็นกว่าชั้นบรรยากาศด้านบน ทำให้ชั้นบรรยากาศเป็นแนวผกผัน (Inversion Layer) จึงเปรียบเหมือนโดมครอบพื้นที่ไว้ ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถขึ้นสูงด้านบนได้ และสะสมจนกลายเป็นฝุ่นควันฟุ้งกระจายทั่วเมืองในที่สุด

ผลกระทบของฝุ่นที่มีต่อร่างกาย
ฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้อย่างมากมาย เหตุเพราะ PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าจมูกไปสู่เส้นเลือดฝอยและกระจายไปตามอวัยวะได้ โดยผลกระทบเบื้องต้นคือเกิดการระคายเคืองต่อดวงตา แสบจมูก และส่งผลให้ผิวพรรณบริเวณใบหน้าเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ เหี่ยวย่นง่าย และถ้าฝุ่นละอองสะสมอยู่ในอวัยวะเป็นเวลานานจะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหอบหืด

ลองมาดู วิธีที่ง่ายและยั่งยืนที่สุดในการลดปัญหาฝุ่นควัน

การปลูกต้นไม้ในบ้านและบริเวณรอบตัวบ้านช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

นอกจากหน้ากากกันฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ ที่ช่วยในการลดความเสี่ยงในการได้รับผลกระทบต่อฝุ่นละออง PM 2.5 แล้วการปลูกต้นไม้และพันธุ์พืชต่างๆก็สามารถช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางวันได้ และยังสามารถดูดซับก๊าซอันตรายอย่างซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์อีกด้วย มากไปกว่านั้นใบไม้ยังช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศ ละอองฝุ่นที่ล่องลอยผ่านต้นไม้จะติดค้างอยู่บนผิวใบ และเมื่อฝนตกลงมาฝุ่นเหล่านี้ก็จะถูกชะล้างลงดินไป แทนที่จะถูกสูดเข้าไปทำอันตรายต่อปอดของสิ่งมีชีวิต

การปลูกต้นไม้ในบ้านช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

งานวิจัยโดยหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ระบุว่า บริเวณต้นไม้ใหญ่ทีมวิจัยพบการลดลงของอนุภาคฝุ่นละอองตั้งแต่ 7 – 24% และบริเวณดังกล่าวยังมีอุณหภูมิเฉลี่ยลดลงอีกด้วย ผลจากการคายน้ำของต้นไม้ แสดงให้เห็นว่าต้นไม้สามารถช่วยแก้ปัญหาหมอกควันในเมืองได้จริง ที่พิเศษก็คือต้นไม้บางต้นมีคุณสมบัติในการดูดซับมลพิษในอากาศมากกว่าต้นอื่นๆ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นต้นไม้ที่มีใบใหญ่ และหนา

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทางโครการของ 999 Developments จึงได้ให้ทางสถาปนิกของเรา ออกแบบสร้างบ้านทุกหลังเน้นพื้นที่กว้างขวาง ทุกตารางเมตรจึงแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ ให้ความรมรื่นแก่ผู้พักอาศัยและดูดซับมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังช่วยลดลดอุณหภูมิและลดการเกิดฝุ่นละออง พร้อมทั้งมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมแสงแดดให้ร่มเงา เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม

 ซึ่งเป็นการจัดสวนที่ดูเรียบง่ายไม่รกเกินไป ที่สำคัญยังมีพื้นที่เหลืออีกมากมายสำหรับให้คุณได้จัดสวนในแบบของตนเองเพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นในบ้านของคุณ ซึ่งต้นไม้ที่เหมาะสมในการปลูกเพื่อลดฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศ อาทิ เช่น

1.ลิ้นมังกร

สามารถกำจัดสารพิษที่ระเหยอยู่ในอากาศได้อย่างดี และยังช่วยผลิตออกซิเจนที่บริสุทธิ์ในเวลากลางคืนด้วย

2.พลูด่าง

สามารถกำจัดสารเบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไซลีน และโทลูอีน ที่อยู่ในอากาศได้ ปลูกง่าย ตายยาก เหมาะปลูกในอาคารหรือที่อยู่อาศัย

3. จั๋ง

ช่วยดูดซับและกำจัดเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน ไซลีน และโทลูอีน ในอากาศ ช่วยลดระดับแอมโมเนียที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายประเภทได้ด้วย

4.ต้นหมากเหลือง หรือปาล์มไผ่

ต้นไม้ชนิดนี้ช่วยเปลี่ยนมลพิษ เช่น สารคาร์บอนไดออกไซด์ ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ ช่วยรักษาระดับความชื้นเพื่อช่วยปรับบรรยากาศรอบ ๆ ให้เย็นสบาย

5.มอนสเตอร่า

ช่วยดูดซับสารพิษอันตรายในอากาศได้ดี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์โดยทั่วไปสารชนิดนี้นิยมใช้ในอุตสาหกรรมสี กาว และสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ไม้

6.ยางอินเดีย

ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนและขจัดสารพิษจากสารเคมีต่าง ๆ ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ ควรปลูกในดินร่วน วางไว้ที่มีแดดรำไร ไม่ชอบแดดจัดหรือวางไว้ในที่โดนแดดตรง ๆ และไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย

7.เดหลี

ต้นไม้ในร่มที่ช่วยดูดซับและกำจัดสารเบนซิน ฟอร์มาลดีไฮด์ ไตรคลอโรเอทิลีน แอมโมเนีย ไซลีน โทลูอีน และสารมลพิษอื่น ๆ ในอากาศได้ดี

หากคุณกำลังมองหา “บ้าน” ในอนาคตที่มีพื้นที่กว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย โอบล้อมด้วยธรรมชาติ บรรยากาศดีๆ เต็มไปด้วยร่มเงาและความรมรื่น ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ไม่ควรพลาดบ้านของ 999 Developments ที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทุกๆด้าน

#ขอบคุณข้อมูลจาก
https://home.kapook.com/view238577.html

https://ngthai.com/environment/31856/pm25in2020/